วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ว้าว!!! รถของเล่นติดเว็บแคมและจอ LCD

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ก่อนหน้านี้ Mattel บริษัทผู้ผลิตของเล่นชั้นนำในสหรัฐฯ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์อย่าง Barbie Video Gril ที่สร้อยคอของเธอจะมีกล้องวิดีโอ ส่วนด้านหลังก็มีจอ LCD ขนาดเล็กซ่อนอยู่ สามารถบันทึกคลิปวิดีโอได้ หลังจากเอาใจเด็กผู้หญิงกันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวเอาใจเด็กผู้ชายกันบ้าง ว่าแล้วในงาน CES 2011 ทางบริษัทก็ได้เปิดตัว Hot Wheels Video Racer รถซิ่งผาดโผนที่มาพร้อมกับกล้องหน้ารถ และจอ LCD ใต้ท้องรถ เพื่อบันทึกวิดีโอภาพความตื่นเต้นเอาไว้เล่นดูได้ทันที หรือจะโหลดเข้าพีซีทาง USB เพื่อนำไปตัดต่อเป็นภาพยนต์ก็ยังได้...ว้าว!!!

Hot Wheels Video Racer เป็นชุดของเล่น"รถตีลังกาผาดโผน"ที่เปิดตัวในงาน CES 2011 ที่ผ่านมา โดยจุดเด่นในของเล่นชุดใหม่นี้ก็คือ มันได้รับการติดตั้งกล้องบันทึกวิดีโอขนาดเล็กที่ด้านหน้า (ปุ่มบันทึกอยู่บนตัวรถ) เพื่อเก็บภาพในมุมมองของผู้ขับ และมีจอ LCD ที่ด้านล่างสำหรับการเล่นวิดีโอภาพหวาดเสียวจากด้านหน้าของรถ ตั้งแต่ปล่อยให้มันซิ่งลงมาจากที่สูง แล้ววิ่งตีลังกาไปตามเส้นทางผาดโผนให้ดูได้ทันที ช่างเป็นของเล่นเด็ก 5 ขวบที่ไฮเทคฯเสียเหลือเกิน
สำหรับคุณสมบัติของกล้องวิดีโอที่ติดตั้งอยู่ในรถซิ่ง Video Racer คันจิ๋วนี้ สามารถบันทึกวิดีโอด้วยอัตราเฟรม 30 - 60 เฟรมต่อวินาที โดยมันจะบันทึกภาพตลอดเส้นทางการวิ่งอันหวาดเสียวลุ้นระทึกตลอดเวลา แม้ยามหลุดร่วง หรือกระเด็นออกจากรางรถจำลอง ซึ่งวิดีโอที่บันทึกไว้สามารถเล่นกลับบนจอ LCD ใต้ท้องรถได้ทันที หรือจะดาวน์โหลดเข้าคอมพิวเตอร์ทางพอร์ต USB แล้วรันโปรแกรม Hot Wheels Video Editor เพื่อตัดต่อคลิปที่ได้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน นอกจากจะซิ่งบนรางแล้ว Hot Wheels Video Racer ยังมีอุปกรณ์เสริมอย่างเคสที่สามารถใส่มันไว้ภายใน แล้วนำไปติดบนหมวกกันน็อค หรือด้านหน้า skateboard เพื่อบันทึกวิดีโอในมุมที่หวาดเสียวอีกรูปแบบหนึ่งได้อีกด้วย สนนราคาของ Hot Wheels Video Editor คันจ้อยพร้อมชุดรางตีลังกาอยู่ที่ 60 เหรียญฯ หรือประมาณ 1,850 บาท
<a href="http://www.arip.co.th/news.php?id=413018" target="_blank"><img src="http://www.arip.co.th/2009/images/logo_arip_s.png" align="middle" border=0></a> <a href="http://www.arip.co.th/news.php?id=413018" target="_blank">ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์</a>

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

LG Optimus 3D สมาร์ทโฟน 3D ตัวจริง

      LG Optimus 3D สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่สามารถให้ประสบการณ์ 3 มิติกับผู้ใช้ โดยไม่ต้องสวมแว่นตาพิเศษแต่อย่างใด ซึ่งนอกจากจะเล่นคอนเท็นต์ 3D ได้แล้ว LG Optimus 3D ยังมาพร้อมกับกล้องคู่ที่สามารถบันทึกวิดีโอในรูปแบบ 3D ได้อีกด้วย แม้จะยังไม่มีของจริงให้เห็นสำหรับคุณภาพของการแสดงผล 3 มิติ แต่การที่สมาร์ทโฟนจากบริษัทชั้นนำกระโดดเข้ามาเล่นในตลาดนี้ ก็น่าจะทำให้ผู้บริโภคได้ตื่นเต้นกันพอสมควร
LG Optimus 3D เกิดจากความต้องการแก้ปัญหาอุปกรณ์เครื่องเล่น 3 มิติที่พบว่า ไม่ค่อยมีคอนเท็นต์ 3D ให้ได้เล่นสักเท่าไร การที่สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ตอบโจทย์เรื่องของความสามารถในการบันทึกคอนเท็นต์ 3D ด้วย จึงอาจจะเป็นการตอบโจทย์ที่สมบูรณ์ ถึงเวลาคอนเท็นต์ 3 มิติออกอาละวาดแล้ว ในส่วนของสเป็กเบื้องต้น ใช้โพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ Nvidia Tegra 2 จอ 4.3 นิ้ว หน่วยความจำ multi-channel RAM กล้องหน้าหลัง พร้อมพอร์ต HDMI 1.4 และการแชร์คอนเท็นไร้สายด้วยเทคโนโลยี DLNA อย่างไรก็ตาม คงต้องพิสูจน์ความแรงของมันอีกทีในงาน Mobile World Congress 2011 ว่าจะได้รับความสนใจมากน้อยเพียงใด คอยติดตามได้จากรายงานข่าวในเว็บไซต์ arip นะครับ

<a href="http://www.arip.co.th/news.php?id=413117" target="_blank"><img src="http://www.arip.co.th/2009/images/logo_arip_s.png" align="middle" border=0></a> <a href="http://www.arip.co.th/news.php?id=413117" target="_blank">ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์</a>

ชิปเซต Intel รุ่นล่าสุด

         อินเทล (Intel) บริษัทผู้ผลิตโพรเซสเซอร์ และชิปเซตที่ใหญ่ที่สุดในโลกประกาศว่า ทางบริษัทพบข้อผิดพลาดหนึ่งในชิปเซตของแพลตฟอร์มล่าสุด ซึ่งความผิดพลาดดังกล่าวส่งผลให้บริษัทพลาดเป้าทางด้านยอดขายประมาณ 1 พันล้านเหรียญฯ อีกทั้งยังทำให้รายได้ในไตรมาสแรกลดลง 300 ล้านเหรียญฯ ในขณะที่กำไรขั้นต้นลดลง 2%



นอกจากรายได้ที่คาดว่าจะลดลงไป 300 ล้านเหรียญฯแล้ว ทางบริษัทยังจะต้องใช้จ่ายอีกประมาณ 700 ล้านเหรียญฯในการเปลี่ยนชิป และระบบที่มีข้อผิดพลาดอีกด้วย สำหรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะอยู่ในชิปเซต (หรือชิปที่ใช้สนับสนุนการทำงาน) ของโพรเซสเซอร์ Intel โมเดลล่าสุดที่ชื่อ Sandy Bridge  ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาทางด้านการทำงานกราฟิกของคอมพิวเตอร์ หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นแพลตฟอร์มที่ชนกับคู่แข่งอย่าง AMD นั่นเอง

ทั้ง นี้ Intel เปิดเผยว่า ทางบริษํทได้แก้ไขข้อผิดพลาดแล้ว และเริ่มผลิตชิปเวอร์ชันใหม่ที่แก้ไขปัญหาแล้วด้วย "เนื่องจากชิปเซตที่มีปัญหาเกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มที่เพิ่งออก ซึ่งยังไม่มีการใช้ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่นี้มากนัก ช่วยให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่มากเกินไป" นักวิเคราะห์ กล่าว ชิปเซต (Chipset) หมายถึง ชิปที่สนับสนุนการทำงานร่วมกับโพรเซสเซอร์ที่เปรียบสมองของคอมพิวเตอร์ โดย จะเชื่อมโยงการทำงานของแพลตฟอร์ม (โพรเซสเซอร์+ชิปเซต) กับชิ้นส่วนอื่นๆ ของคอมพิวเตอร์ และฟังก์ชันต่างๆ อย่างไรก็ตาม การเกิดปัญหากับชิปแค่หนึ่งตัวในชิปเซตอาจจะต้องใช้เวลาร่วมเดือนในการผลิต

อิน เทลคาดว่า จะเริ่มส่งมอบชิปเซตอัพเดตให้กับลูกค้าได้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทางบริษัทได้ส่งมอบชิปมีปัญหา และต้องใส่ตัวใหม่เข้าไปแทนถึง 8 ล้านตัว อย่างไรก็ดี ทางบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว โดยระบบทั้งหมดจะได้รับการเปลี่ยน และแก้ไข ตลอดจนส่วนของการผลิตชิปที่ถูกต้องสมบูรณ์จะดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นต้นไป ทั้งนี้โพรเซสเซอร์ในแพลตฟอร์ม Sandy Bridge จะไม่สามารถทำงานได้หากขาดชิปเซตใหม่ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ Intel เสียโอกาส ในขณะที่ AMD ก็มีแพลตฟอร์มใหม่ออกมาเหมือนกัน

ล่าสุดยังไม่มีรายงานจากผู้บริโภค ว่า พบปัญหาการใช้งานแต่อย่างใด นับตั้งแต่เปิดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้แพลตฟอร์ม Sandy Bridge มาตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ไปพร้อมกับชิปเซตที่มีปัญหา สำหรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดในขั้นตอนการทดสอบที่เรียกว่า Stress test โดยพบว่า มีอยู่หนึ่งฟังก์ชันในชิปเซตที่มันหยุดทำงานก่อนคอมพิวเตอร์จะหมดอายุใช้งาน ตามค่าเฉลี่ย พูดง่ายๆ ก็คือ ฟังก์ชันดังกล่าวมีอายุสั้นกว่าอายุการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ นั่นเอง
<a href="http://www.arip.co.th/news.php?id=413118" target="_blank"><img src="http://www.arip.co.th/2009/images/logo_arip_s.png" align="middle" border=0></a> <a href="http://www.arip.co.th/news.php?id=413118" target="_blank">ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์</a>

วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การปรับแต่งรูป Blogger

การปรับแต่งใส่รูปภาพบนHeade ของบล็อก ที่เราสร้างเอง

สวัสดีค่ะ MeOmee มาแว้ว หลังจากได้ห่างหายไปนานมาก เพราะไฟหมด (ไฟมันจะมีมาเป็นช่วง ๆ ค่ะ) วันนี้มีไฟอีกรอบ พอดีก็มีคำถามจากเพื่อนมือใหม่ที่กำลังทำบล็อก MeOmee ก็เลยรีบตอบทันที สำหรับคนที่เคยถามคำถามเข้ามา แล้ว MeOmee ยังไม่ได้ตอบก็ขอโทษจริง ๆ นะคะ ก็จะพยายามไล่ตอบให้หมด ซึ่งบางคำถามผู้ถามอาจจะไม่ต้องการคำตอบแล้ว เอาเป็นว่า ก็เอาไว้เป็นกรณีศึกษาสำหรับเพื่อน ๆ ที่มือใหม่กว่าละกันนะคะ แหะ แหะ

ซึ่งก็มีคำถามจากคุณ bodin yungyang ว่า

“ในบล๊อค siamblogspot.blogspot. อ่ะครับ ตรงส่วนหัวอ่ะครับทำไงอ่ะตรงป้าย SiamBlogspot ตัวใหญ่ๆอ่ะครับทำไงอ่ะครับ เห็นมานมีลิ้งค็ด้วยอ่า รบกวนส่งมาทางเมลนี้นะครับ”

MeOmee ตอบ
MeOmee ก็ได้ลองเข้าไปดูที่บล็อก ก็เห็นว่ามันเป็นรูปแบบนี้ค่ะ


สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะ


1. ทำการ Log In เข้าไปที Account บล็อกของเรา
2. เข้าไปที่ Lay Out แท็ป Page Elements
3. ให้สังเกตที่ Header คลิกที่ Edit จะมีช่องให้เรากรอก



4. ให้เลือกรูปที่จะใส่จาก “From the Web” ซึ่งหมายความว่ารูปที่ MeoMee ใช้นั้นจะมาจาก รูปภาพที่ได้โหลดขึ้นบล็อกแล้ว และเอาลิงก์ที่อยู่ URL มาใส่ ซึ่งรูปภาพก็ไม่ไปฝากที่ไหนไกล ก็ทำการอัพโหลดกับบทความของ Blogger.com นี่หล่ะค่ะ
5. จากนั้นคลิกเลือกใช้ Instead of title and description คือ ให้ใช้ภาพแทน ชื่อบล็อกและ รายละเอียดของบล็อก
6. รอรูปภาพให้ดาวน์โหลด จนเสร็จ จะขึ้นรูปภาพแบบนี้ค่ะ





7. จากนั้นให้คลิกที่ SAVE

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การสร้งบทความ Blogger

 
ส่วนของการสร้างบทความให้เข้าไปที่ "การส่งบทความ" หัวข้อ "สร้าง" ให้เพื่อนๆทำความเข้าใจเมนูและเครื่องมือต่างๆ ของการสร้างบทความใน Blogger เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน


ความเข้าใจเบื้องต้นในการสร้างบทความ

การสร้างบทความใช้พื้นฐาน Microsoft word คือเขียนอย่างไรก็จะออกมาอย่างนั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
  1. ส่วนของ "เขียน"
    ในส่วนนี้จะเหมือน Microsoft Word เกือบทุกๆอย่าง อยากเขียนอะไร อยากใช้ตัวหนา ตัวเอียง การใส่ Link เพียงแค่คลิ๊กเมนูการใช้งานด้านบน มีข้อเสียคือ เวลา Copy อะไรก็ตามแล้วนำมา Paste ลงในนี้ ลักษณะของของตัวอักษรจะเหมือนกับต้นแบบที่ Copy มาทุกอย่างครับ
  2. ส่วนของ "HTML"
  3. ส่วนนี้ต้องใช้ความรู้พอสมควรในการปรับแต่เนื้อหาหรือบทความที่เราเขียนให้เป็นไปตามที่เราตั้งใจ ซึ้งต้องใช้ความรู้ภาษา HTML พอสมควร แต่ไม่ได้ยากเท่าไรครับ ข้อดีคือ สามารถปรับตามความต้องการของเราได้ทุกอย่าง เมื่อ Copy อะไรมาวาง ลักษณะตัวอักษรจะถูกปรับเป็นตัวอักษรปกติของบล๊อกเราครับ
ข้อสังเกตุ:
การ Copy อะไรมาวางถ้าไม่อยากให้ลักษณะผิดเพี้ยน ไม่ตรงตามรูปแบบที่สวยงาม ให้้ Copy แล้วทำมา Paste ในส่วนของ HTML ครับ ข้อความทั้งหมด จะถูกปรับให้การแสดงผลเป็นค่าปกติของบล๊อกเรา ไม่ใช่ตามลักษณะต้นแบบที่เรา Copy มาครับ

เครื่องมือต่างๆ ในการสร้างบทความ

Blogger มีเครื่องมือต่างๆมากมาย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเขียบบทความได้ตามรูปแบบที่ตั้งใจ ดูตามดังรูปเลยครับ

  1. แบบอักษร สามารถเลือกตัวอักษรได้ตามต้องการ
  2. ปรับขนาดตัวอักษร ปรับขนาดความใหญ่หรือเล็กลง
  3. ตัวหนา
  4. ตัวเอียง
  5. สีของตัวอักษร
  6. ทำ Link ให้ข้อความ เราสามารถสร้าง Link ให้ข้อความได้โดยการ คลิ๊กคลอบข้อความที่เราต้องการแล้วกดที่เมนูนี้ ระบบจะให้ทำการใส่ URL (ที่อยู่ของ Link เช่น www.snook.com) เมื่อคลิ๊กที่ข้อความจะถูกส่งไปยังหน้าเว็บที่เราใส่ Link เข้าไป
  7. ทำบทความให้ชิดซ้าย
  8. ทำบทความให้อยู่กึ่งกลาง
  9. ทำบทความให้ชิดขวา
  10. ทำบทความให้ชิดทั้งขอบซ้ายและขวา
  11. ทำรายการเรียงลำดับเป็นตตัวเลข
  12. ทำรายการเรีนงลำดับเป็นจุด
  13. ใส่ "," ให้กับข้อความที่ต้องการเน้นคำพูด
  14. เพิ่มรูปภาพลงในบทความของเรา ระบบจะให้เราอัพโหลดไฟล์รูปภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา สามารถปรับขนาดและจัดรูปแบบให้อยู่ ซ้าย,กลาง,ขวา ได้
  15. เพิ่ม Video เข้าไปในบทความของเราเช่นเดียวกับรูปภาพครับ
  16. ส่วนนี้เป็นการลบข้อความที่เราเขียนผิดพลาด ในส่วนนี้ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร หรือไม่ได้ใช้เลยก็ได้
  17. แก้ไข HTML ส่วนนี้ต้องใช้ความรู้พอสมควรในการปรับแต่เนื้อหาหรือบทความที่เราเขียนให้เป็นไปตามที่เราตั้งใจ ซึ้งต้องใช้ความรู้ภาษา HTML พอสมควร
  18. หน้าที่ใช้เขียนบทความเหมือนการใช้งาน Microsoft Word
  19. แสดงตัวอย่างที่เราเขียนบทความ
  20. การใส่หัวข้อเรื่อง เช่น เรื่อง "การตกแต่งบ้างโดยใช้ต้นไม้ประดับ" หัวข้อก็คือ การตกแต่งบ้าน (บ่งบอกให้รู้ว่าเรื่องเกี่ยวกับอะไร)
  21. ทำการเผยแพร่บทความทันที บทความจะแสดงหน้าบล๊อกของเราทันที่ที่เราเผยแพร่
  22. บันทึก เป็นการบันทึกบทความไว้ก่อน จะยังไม่แสดงในหน้าบล๊อกของเรา เหมือนการร่างบทความ เราสามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนทีหลังได้ใน "การแก้ไขบทความ

การสร้างเว็บไซต์ ด้วย www.Blogger.com

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ www.blogger.com แล้วกรอกชื่ออีเมล และรหัสผ่านเดียวกับตอนที่สร้างบัญชีอีเมล ของ Gmail.com จากนั้น คลิก “เข้าสู่ระบบ”

2. พิมพ์ชื่อที่ต้องการแสดงบนหัวเว็บไซต์
3. นำเม้าท์ไป “ติ๊ก” ตรงช่อง ข้าพเจ้ายอมรับข้อตกลงการใช้บริการ แล้วคลิก ปุ่ม “ทำต่อ” ขวามือ
4. ระบบพร้อมที่จะให้ท่านสร้างบล็อกแล้ว

5. กรอกชื่อเว็บบล็อกที่ต้องการ (ควรสื่อถึงความหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนด)
6. กรอกที่อยู่ของบล็อก (เป็นโดเมนเสมือน ที่จะมีคำว่า .blogspot.com ต่อท้าย ดังนั้นจึงไม่ควรยาวเกินไป และควรคลิก “ตรวจสอบความพร้อมการใช้งาน” ว่าชื่อโดเมนเนมนั้นมีผู้จดไปหรือยัง) ชื่อเรียกของบล็อกนี้จะเป็นโดเมนเนมในการพิมพ์เพื่อเรียกเว็บไซต์ให้ปรากฏ ดังนั้นจึงควรเป็นชื่อที่จำง่าย และสะกดผิดยาก เมื่อได้ชื่อที่ต้องการแล้วให้คลิกคำว่า “ทำต่อ”
7. เลือกแม่แบบ (Template) ซึ่งมีรูปแบบให้เลือกมากมาย โดยสามารถเลื่อนสกอร์บาร์ดู
8. เมื่อเลือกได้แบบที่ต้องการ ก็นำเม้าส์ไปติ๊กหน้าวงกลม แล้ว คลิกช่องลูกศร “ทำต่อ” ด้านขวามือล่าง

9. ในขั้นตอนนี้ เว็บของท่านก็จะมี (เวอร์ช่วล) โดเมนเน และรูปแบบ (ดีไซน์) จากแม่แบบที่ท่านเลือกแล้ว ยังคงขาดเพียงแต่ข้อมูลที่ท่านจะให้ปรากฏบนเว็บไซต์ ดังนั้น ให้กดคลิกที่รูปลูกศร “เริ่มต้นการส่งบทความ”

10. จะปรากฏหน้าจอดังรูปข้างต้น ซึ่งหากท่านเคยใช้ โปรแกรม word มาก่อน ก็สามารถนำทักษะนั้นมาเพื่อสร้างข้อมูลต่างๆ ได้ทั้งลูกเล่น, ขนาด, และสีสันของตัวอักษร

11. สำหรับท่านที่ต้องการใส่ภาพประกอบนั้น ให้คลิกที่ปุ่มรูปภาพขนาดเล็ก (ตามศรชี้)
12. จะปรากฏ Pop-up box ขึ้นมา ให้ท่านคลิกที่ Browse เพื่อเรียกไฟล์ภาพที่เก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ต้องการ (ขนาดของภาพไม่ควรใหญ่เกิน 100K ) ท่านสามารถกำหนดตำแหน่งการวางภาพได้ ทั้ง ซ้าย, กึ่งกลาง, ขวา และขนาดรูปภาพที่ต้องการแสดงได้ว่า ต้องการ (ขนาดเล็ก, ปานกลาง หรือใหญ่) โดยใช้เม้าส์คลิกที่หน้าปุ่มที่ต้องการ
13. ภาพที่ต้องการก็จะปรากฏขึ้นมาให้เลือก
14. ในขั้นตอนนี้ให้ท่านจะเห็นชื่อไฟล์ภาพที่ต้องการมาเก็บไว้ใน Browse เรียบร้อยแล้วให้ท่าน ติ๊กที่ กล่องเล็กๆ หน้าข้อความว่า “ข้าพเจ้ายอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ” จากนั้น จึงคลิกที่ ปุ่ม อัพโหลดรูปภาพ



15. ระบบจะทำการอัพโหลดรูปภาพ


16. เมื่อเรียบร้อยแล้วให้ท่านคลิกที่ปุ่ม เสร็จเรียบร้อย เป็นอันเสร็จขั้นตอนในการเพิ่มรูปภาพเข้าไปในเว็บไซต์ของท่าน
17. เมื่อตรวจสอบตำแหน่งภาพ และข้อความต่างๆ ถูกต้องแล้ว ให้ท่าน เลือกที่จะ คลิก “เผยแพร่บทความ” จะปรากฏบนหน้าเว็บไซต์ และคนที่เข้ามาเว็บไซต์ของท่านจะพบเห็นข้อมูลเหล่านี้ หรือเลือกที่จะ “บันทึกทันที” ในความหมายนี้ ข้อมูลทั้งหมดจะยังไม่ปรากฏให้บุคคลภายนอกเห็น จนกว่าท่านจะกลับมาคลิกที่ “เผยแพร่บทความ”



18. เมื่อท่านคลิก “เผยแพร่บทความ” แล้ว ในหน้าเว็บจะปรากฏจอข้างต้น หากท่านต้องการดูบล็อก ให้คลิกตรงคำว่า “ดูบล็อก” แต่หากต้องการแก้ไขข้อมูล ให้เลือกคลิก “แก้ไขบทความ” หรือต้องการจะเพิ่มข้อมูลอื่นในเว็บไซต์ ก็ให้คลิกคำว่า “สร้างบทความใหม่”



19. หน้าเว็บไซต์ที่จัดทำจะปรากฏขึ้น นอกจากนั้น เว็บนี้ยังสามารถปรับแต่งรูปแบบต่างๆ ได้ตามความเหมาะสม เช่น เพิ่มลิงค์, เพิ่มวิดีโอ หรือสไลด์รูปแบบต่างๆ ได้อย่างมากมาย ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและลองทดสอบด้วยตนเอง

การใช้งาน Blogger

การใช้งานเวบ Blogger

ใน Stepนี้ เราจะได้ศึกษาถึงวิธีการใช้งานเว็บบล็อกกัน ว่าวิธีการเพิ่มเนื้อหารายละเอียดเขาทำกันอย่างไร?
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการมุ่งหน้าหาเงินออนไลน์ ดังที่กระผมการันตรีว่า ภายใน 9 วันต้องเห็นผลให้ได้
จาก Step ที่แล้วได้สร้างเว็บบล็อกเอาไว้ถึงขึ้นตอน บล็อกของคุณถูกสร้างแล้ว (ด้านล่าง)

จากนั้นให้เราคลิกที่ เริ่มต้นส่งบทความจะปรากฎหน้าต่างด้านล่าง ซึ่งจะให้เราใส่ข้อความ บทความ รูปภาพ ตามความต้องการโดยการคลิกที่ สร้าง
-ชื่อเรื่อง (คือหัวข้อเรื่องที่เราต้องการ)
-และมีพื้นที่สำหรับการใส่ข้อความ, รูปภาพเป็นต้น